ฉันจะเขียนบทความเกี่ยวกับผลประกอบการของ Apple ให้มีความยาวประมาณ 1,000 คำตามที่คุณต้องการค่ะ
ภาพรวมผลประกอบการที่น่าประทับใจ
ในวันที่ 30 เมษายน 2025 Apple Inc. ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินประจำไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 มีนาคม 2025 โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้สามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 95.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นปรับลด ซึ่งเติบโตขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของบริษัท
ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “ไตรมาสนี้เราแสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการเติบโตระดับสองหลักของกลุ่มบริการ เรารู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับ iPhone 16e เข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา พร้อมกับการเปิดตัว Mac และ iPad รุ่นใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วย Apple Silicon และเราภูมิใจที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ 60% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา”
ธุรกิจบริการเป็นดาวเด่น สร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
จุดเด่นที่น่าสนใจของผลประกอบการในไตรมาสนี้คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มธุรกิจบริการ ซึ่งประกอบด้วย Apple Music, Apple TV+, iCloud, App Store และบริการอื่นๆ โดยสามารถสร้างรายได้สูงถึง 24.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.8% จากปีก่อน นับเป็นการทำสถิติรายได้สูงสุดใหม่ของกลุ่มธุรกิจนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การหารายได้จากฐานผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple ที่มีอยู่ทั่วโลก
นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า “การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจบริการช่วยให้ Apple สามารถลดการพึ่งพารายได้จากยอดขายฮาร์ดแวร์ที่มีความผันผวนตามวัฏจักรการเปลี่ยนอุปกรณ์ของผู้บริโภค และสร้างกระแสรายได้ที่มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่นักลงทุนให้มูลค่ากับหุ้น Apple ในระดับ PE Ratio ที่สูงกว่าบริษัทเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์อื่นๆ”
ปัจจุบัน Apple มีผู้ใช้บริการแบบสมาชิกรายเดือนมากกว่า 975 ล้านราย เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากธุรกิจบริการให้เติบโตต่อเนื่องและทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2026
ยอดขาย iPhone ฟื้นตัว แม้เผชิญความท้าทายในตลาดจีน
ในส่วนของผลิตภัณฑ์หลักอย่าง iPhone ซึ่งยังคงเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่สุดของบริษัท สามารถสร้างรายได้ 41.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ เติบโตขึ้น 3.4% จากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเปิดตัว iPhone 16e รุ่นประหยัดซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในอินเดีย บราซิลและเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม ยอดขาย iPhone ในประเทศจีนยังคงชะลอตัวลง 7.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในประเทศอย่าง Huawei, Xiaomi และ Oppo ที่นำเสนอสมาร์ทโฟนฟังก์ชันครบครันในราคาที่ต่ำกว่า รวมถึงความท้าทายจากเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว ทั้งนี้ Apple กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อฟื้นส่วนแบ่งตลาดในจีนผ่านโปรโมชันราคาพิเศษและการปรับปรุงฟีเจอร์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ในท้องถิ่นมากขึ้น
Mac และ iPad เติบโตได้ดีจากชิป Apple Silicon รุ่นใหม่
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Mac สามารถสร้างรายได้ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อนหน้า ขับเคลื่อนโดยการเปิดตัว MacBook Pro และ Mac Studio รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิป M4 Pro และ M4 Max ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่เหนือกว่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะการรองรับการประมวลผล AI ระดับทอปด้วยหน่วย Neural Engine ที่พัฒนาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนยอดขาย iPad อยู่ที่ 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบกับปีก่อน หลังจากการเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมจอภาพ OLED และชิป M4 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ระดับมืออาชีพ รวมถึงการเปิดตัว iPad Air ที่อัปเกรดมาใช้ชิป M3 ทำให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
แนวโน้มการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานและการขยายกำลังการผลิต
หลังจากที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการระบาดของโควิด-19 และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ Apple รายงานว่าสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานได้กลับสู่ภาวะปกติในไตรมาสนี้ ช่วยให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด
นอกจากนี้ Apple ยังได้ประกาศแผนการลงทุนกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการสร้างโรงงานผลิตชิป Apple Silicon แห่งใหม่ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ TSMC จากไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และตอบสนองต่อนโยบายส่งเสริมการผลิตชิปของรัฐบาลสหรัฐฯ
การลงทุนด้านเทคโนโลยี AI และแผนการในอนาคต
ในการประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการ ทิม คุก ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีความรับผิดชอบ โดยบริษัทกำลังเตรียมเปิดตัว Apple Intelligence บนอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับ iOS 19 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งจะเป็นการผสานรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Apple อย่างลึกซึ้ง
“เรากำลังลงทุนอย่างมหาศาลในเทคโนโลยี AI แต่เรายังคงยึดมั่นในแนวทางที่รอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับแรก เราเชื่อว่า AI ควรเสริมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ไม่ใช่แทนที่มนุษย์” คุกกล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานว่า Apple ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีความเป็นจริงผสม (Mixed Reality) ต่อเนื่องจากการเปิดตัว Apple Vision Pro เมื่อต้นปี 2025 โดยมีแผนจะเปิดตัว Vision Pro รุ่นที่สองในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้นในปี 2026 เพื่อขยายฐานผู้ใช้งาน
นโยบายคืนทุนผู้ถือหุ้นและการซื้อหุ้นคืน
เคเวน พาร่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Apple กล่าวว่า “ผลประกอบการประจำไตรมาสนี้มีส่วนช่วยให้กำไรต่อหุ้นเติบโต 8% และสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ถึง 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เราสามารถคืนเงินแก่ผู้ถือหุ้นได้มากถึง 29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ”
คณะกรรมการบริษัทของ Apple ได้ประกาศนโยบายเงินปันผลใหม่ที่ 0.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า โดยเงินปันผลจะจ่ายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วันปิดทำการของวันที่ 12 พฤษภาคม 2025
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติมในวงเงินสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริหารต่อผลประกอบการและมูลค่าหุ้นในระยะยาว โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนในปี 2012 Apple ได้ซื้อหุ้นคืนไปแล้วกว่า 650 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทิม คุก ภาคภูมิใจนำเสนอคือความคืบหน้าด้านความยั่งยืน โดย Apple สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 60% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในทุกส่วนของธุรกิจภายในปี 2030
ปัจจุบัน 85% ของพลังงานที่ใช้ในการดำเนินงานทั่วโลกของ Apple มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และบริษัทได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์กว่า 300 รายเพื่อเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด 100% ในการผลิตชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์สำหรับ Apple
มุมมองและคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต
สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2025 (เมษายน-มิถุนายน) Apple คาดการณ์ว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 3-5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจบริการและการฟื้นตัวของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญ รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนการผลิต
ด้วยฐานอุปกรณ์ที่มีการใช้งานทั่วโลกมากกว่า 2.2 พันล้านเครื่อง และอัตราการรักษาลูกค้า (Customer Retention) ที่สูงถึง 93% Apple ยังคงมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี