วันที่ 16 ม.ค.65 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีหญิงชราวัย 86 ปี จ.สงขลา เสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่า หญิงรายดังกล่าวป่วยอัลไซเมอร์ อยู่ในกลุ่มผู้ป่วย 608 แม้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม แต่ยังป่วยติดเชื้อจากลูกหลานที่ไปเยี่ยมช่วงเทศกาลปีใหม่
จึงต้องย้ำเตือนให้ระวังในกลุ่มคนที่ต้องใกล้ชิดผู้ป่วยเปราะบาง ต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เคร่งครัดระยะห่าง ล้างมือ และควรนำกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ ที่เป็นผู้สูงอายุและป่วยเรื้องรังที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
“ขอย้ำอีกครั้งว่า คนได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อเดือนตุลาคม ควรจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 ได้แล้วในเดือนมกราคมนี้ เพราะการรับวัคซีนแม้ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรคและป่วยหนักได้” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายเดือนที่ไทยพบผู้เสียชีวิตจากโควิดน้อยกว่า 10 ราย ซึ่งเกิดจากหลายเหตุผล แต่สำคัญที่สุดคือตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจลดลงต่อเนื่องหลายเดือน รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ หากสังเกตจะพบว่าผู้เสียชีวิต 9 รายใหม่วันนี้ ทุกรายเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรั้ง และหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งในจำนวน 9 รายมี 1 รายที่รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็มมา 4 เดือนแล้ว ก็คือกรณีที่สงขลา ดังนั้น ก็จะมีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตได้
“ดังนั้น ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่เร่งกระตุ้นวัคซีนในเข็มที่ 3 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เราจึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเข้ามารับวัคซีนบูสเตอร์โดสตามกำหนด” นพ.โอภาส กล่าว
เมื่อถามต่อว่าหากพบว่าฉีดวัคซีนครบมา 4 เดือนแล้วติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตได้ จะทราบอย่างไรว่าแต่ละคนภูมิต้านทานเหลือมากน้อยอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะสุ่มตรวจเลือดประชาชนเป็นระยะ เพื่อดูข้อมูลและประกาศให้เข้ามารับบูสเตอร์โดส โดยเราพบว่าเมื่อรับเข็ม 2 ไปแล้ว 3 เดือน ภูมิเริ่มตก และเมื่อมีโอมิครอนที่ระบาดเร็วก็อาจต้องการภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เราจึงประกาศให้กลุ่มเสี่ยง 608 เข้ามารับวัคซีนเข็ม 3 หลังจากรับเข็ม 2 แล้ว 3 เดือน
“กลุ่ม 608 ขอให้มารับตามที่กำหนดได้เลยคือ ครบเข็ม 2 ตอนเดือนตุลาคม 64 ให้มารับเข็ม 3 ได้เดือนนี้ ครบเข็ม 2 ตอนเดือนพฤศจิกายน 64 ก็ให้รับเดือนหน้า ครบเดือนธันวาคม 64 ก็มารับในเดือนมีนาคม” นพ.โอภาส กล่าว
เมื่อถามตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเหวี่ยงขึ้นลงอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้เราฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว และมีการกระตุ้นเข็ม 3 รวมถึงจำนวนผู้ป่วยอาการหนักก็ไม่เยอะ แต่เนื่องจากระยะนี้พบว่าโอมิครอนติดเชื้อได้ค่อนข้างง่าย คนเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เพราะเราไม่อยากต้องปิดนาน เศรษฐกิจ คนตกงานก็จะมากขึ้น
ดังนั้น หากติดเชื้อในระดับนี้ ระบบสาธารณสุขยังรองรับได้ โดยเฉพาะความร่วมมือในการเข้าระบบแยกกักที่บ้านและชุมชน(Home and community Isolation) เพื่อให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนัก ให้ได้รับการดูแลในโรงพยาบาล
“คาดว่าหากทุกคนมารับวัคซีนตามกำหนด ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเฉลี่ยที่วันละ 20 ราย ไม่น่าสูงกว่านี้ แต่คิดว่าจะอยู่ในระดับต่ำสิบหรือสิบเล็กน้อยอีกระยะหนึ่ง เพราะกลุ่มเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่ม 608 และย้ำว่ากลุ่มนี้ แม้จะได้รับวัคซีนก็ต้องมารับเข็มกระตุ้น” นพ.โอภาส กล่าว
อ้างอิง
https://www.khaosod.co.th/covid-19
